หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามทำอะไรบ้าง ข้อปฎิบัติ ที่คนอยากหน้าเรียว
แม้การฉีดเมโสแฟตจะเป็นหัตถการขนาดเล็กที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ว่าก็มีข้อห้ามหรือข้อควรปฏิบัติหลังฉีดด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของตัวยานั่นเอง อย่างไรก็ตามการฉีดเมโสแฟตนับเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมากในปัจจุบัน เจ็บน้อย บวมช้ำน้อยมาก ไม่มีแผลเป็นและไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ฉีดแล้วสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ทันที ข้อควรปฏิบัติหรือข้อห้ามหลังฉีดจึงมีไม่มากนัก ดังจะกล่าวถึงในบทความด้านล่างเลย
สิ่งที่ห้ามทำ หลังฉีดเมโสแฟต
เมื่อฉีดเมโสแฟตมา หลายคนอาจจะกังวลว่าจะทำงานเลยได้ไหม แต่งหน้า ทาครีมหรือล้างหน้าได้ตามปกติหรือไม่ ซึ่งขอบอกได้เลยว่าฉีดแล้วใช้ชีวิตตามปกติได้เลย ส่วนข้อห้ามก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่ยุ่งยากและมีไม่มากนัก ดังนี้
• ห้ามทำทรีทเมนท์ เช่น ขัดผิว อบผิว ประคบ นวด ซาวน่า เลเซอร์ไปจนถึงการว่ายน้ำ เพราะว่าจะทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการอักเสบอีกด้วย ดังนั้นควรงดก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์
• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดอาการบวมช้ำ โดยควรงดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
• งดทาครีม งดทาครีมบำรุงผิวคืนแรกหลังฉีด เพราะรอยเข็มยังไม่ปิดสนิท นอกจากอาจทำให้ระคายเคืองได้แล้วยังเพิ่มความเสี่ยงในการอักเสบอีกด้วย
• หลีกเลี่ยงการทานอาหารไขมันสูง ในข้อนี้ไม่ได้ห้ามไปเสียทั้งหมด เพราะร่างกายคนเรายังต้องการไขมันเป็นพลังงาน เพียงแต่ควรจำกัดปริมาณอาหารที่มีไขมันสูงและอาหารรสหวานจัด เพื่อป้องกันไม่ให้การสะสมของไขมันใหม่เกิดขึ้นเร็วเกินไป หากเป็นเป็นไปควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการคุมอาหาร จะช่วยให้ไขมันกลับมาสะสมใหม่ช้าลง ผลลัพธ์การฉีดเมโสแฟตจะอยู่นานยิ่งขึ้น
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณที่ฉีดเมโสแฟต นอกจากการนวดแล้ว การกด แกะ บีบ ลูบคลำหรือสัมผัสโดยไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยากระจายไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการนั่นเอง แต่ข้อนี้งดเพียง 1-2 วันเท่านั้น
ข้อห้ามที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตนั้นมีข้อเถียงกันอยู่บางประการเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังฉีด เพราะยังมีบางคนเข้าใจไม่ถูกต้องหรือมีข้อสงสัยในบางคำถาม โดยคำถามที่พบมาก ได้แก่
• ฉีดเมโสแฟตแล้วห้ามนอนราบ? อันที่จริงแล้วสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ทุกท่าทางที่ถนัด เพียงแต่ควรหลีกเลี่ยงการกดทับผิวหนังในบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตมาจนกว่าจะยุบบวมและหายดี เนื่องจากการนอนทับรอยเข็มอาจทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้นในระยะแรกหลังฉีดนั่นเอง
• ฉีดเมโสแฟตแล้วห้ามทานอาหารหมักดอง? อาหารหมักดองเองก็ไม่ใช่ข้อห้ามเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่แนะนำเนื่องจากอาหารประเภทนี้อาจมีสารที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบผสมอยู่ นอกจากนี้กรรมวิธีการผลิตที่ถ้าหากไม่สะอาดมากนักอาจทำให้ผู้บริโภคติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นหากเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ทานแบบปรุงสุกเรียบร้อยแล้วจะดีมากกว่า
• ฉีดเมโสแฟตแล้วห้ามทานวิตามินหรืออาหารเสริม? ทานได้ตามปกติทั้งวิตามินและอาหารเสริม
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
หลังจากฉีดเมโสแฟต ตัวยาจะไปสลายไขมันให้กลายเป็นไขมันเหลว ก่อนจะถูกขับออกมาพร้อมกับการขับถ่าย แต่โดยมากแล้วจะขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ หากต้องการให้ร่างกายกำจัดไขมันได้เร็วขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำให้มากๆ ดื่มอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร จิบเรื่อยๆ ระหว่างวันและไม่ควรดื่มคราวละมากๆ สำหรับใครที่แพทย์แนะว่าควรฉีดซ้ำ ในช่วงเว้นระยะการฉีด การเข้ารับบริการยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) จะช่วยให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย กล้ามเนื้อกระชับ ทั้งยังกระตุ้นให้ไขมันสลายเร็วมากขึ้นด้วย
ข้อควรระวังในการฉีดเมโสแฟต
• คลินิกไม่มีมาตรฐาน เนื่องจากมีคลินิกเสริมความงามหลายแห่งให้บริการฉีดเมโสแฟต บางแห่งอาจไม่มีมาตรฐาน เครื่องไม่สะอาด ใช้เมโสแฟตไม่มีคุณภาพหรือแพทย์ไม่เชี่ยวชาญ การฉีดเมโสแฟตกับคลินิกแบบนี้โดยเฉพาะการฉีดกับหมอกระเป๋าจะเสี่ยงกับผลข้างเคียงหลายประการ ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้วจะไม่คุ้มกับค่ารักษาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นก่อนฉีดอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลของคลินิกที่จะเข้าไปใช้บริการกันอย่างละเอียดด้วย
• เมโสแฟตปลอม ก่อนจะฉีดเมโสแฟต ให้สอบถามหรือตรวจสอบข้อมูลของตัวยาที่ทางคลินิกใช้ให้เรียบร้อยก่อน โดยทั่วไปแล้วคลินิกที่ให้บริการอย่างโปร่งใสจะให้คนไข้สามารถตรวจสอบตัวยาได้ ไม่ว่าจะเป็นเมโสแฟต โบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ก็ตาม ที่สำคัญคือแม้จะเป็นตัวยาจากคลินิกก็ยังมีโอกาสเป็นของปลอมหรือเป็นยาไม่มีมาตรฐานได้ เพราะฉะนั้นห้ามไปหาซื้อเมโสแฟตมาใช้เองโดยเด็ดขาด
สรุป หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามทำอะไรบ้าง
และนี่ก็เป็นข้อห้ามและแนวทางการปฏิบัติตนหลังจากฉีดเมโสแฟต จะเห็นว่าไม่ยุ่งยากและสามารถทำตามได้ง่ายต่างจากหัตถการเสริมความงามอื่นๆ มาก แต่ถ้าใครยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็เข้าไปขอคำปรึกษาแนะนำให้กับแพทย์ในคลินิกที่ตัวเองสนใจกันได้เลย หากไม่มีเวลาก็ติดต่อไปตามช่องทางออนไลน์ได้ แต่ควรเลือกคลินิกที่แพทย์เป็นผู้ตอบคำถามด้วยตัวเอง เพราะจะได้คำตอบที่ถูกต้องแม่นยำมากกว่านั่นเอง
