ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ Filler คืออะไร
คือ สารเติมเต็มผิวประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เอชเอ (HA) ฉีดเข้าไปยังบริเวณตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขบนใบหน้า สารตัวนี้มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) เติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง (Increase Elasticity) เต่งตึง ดูสุขภาพดี เรียบเนียนและช่วยลดริ้วรอยได้ ตัวฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจน ทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์สามารถกักเก็บน้ำได้ดียิ่งขึ้น คุณสมบัติของฟิลเลอร์ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกอย่าง ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการปรับแก้ไขรูปหน้าให้สวยงาม ยังช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว แถมเรียบเนียน และริ้วรอยดูลดลงได้อีกด้วย
ฟิลเลอร์ที่ใช้เพื่อเสริมความงามจะมีด้วยกันอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
1. ฟิลเลอร์ประเภทถาวร (Permanent Filler)
เป็นฟิลเลอร์ที่อยู่แบบถาวร ไม่สามารถสลายได้ เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ผิวของเราจะไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ประเภทนี้ได้ ทำให้สารเหล่านี้ตกค้างอยู่ใต้ชั้นผิว ซึ่งในระยะยาวจะก่อให้เกิดผลกระทบได้อย่างแน่นอน เป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่าน อย. เช่น Biosynthetic Polymers จำพวกซิลิโคนเหลว, Calcium Hydroxylapatite, Polymethylmethacrylate ฉีดแล้วแข็งเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือกลายเป็นพังผืด ต้องผ่าออก หรือขูดออกเท่านั้น หากอยู่ในร่างกายนานเกินไปจะทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรง จนฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์บวมเน่า หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน หน้าเบี้ยวผิดรูปได้
2. ฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวร (Semi–Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวร จะมีระยะเวลาคงตัวอยู่ได้ประมาณ 2-5 ปี เป็นสาร Polymethyl methacrylate ที่แขวนลอยอยู่ในคอลลาเจน มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เพราะร่างกายจะจำว่าฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวรนี้เป็นสารแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ซึ่งสารบางตัวก็ยังไม่ได้รับอนุญาติจาก อย.ของไทยในการนำมาใช้
3. ฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว (Temporary Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว จะมีระยะเวลาคงตัวอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ถือว่าเป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และเป็นชนิดเดียวที่ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย เนื่องจากสามารถสลายตัวได้เองแบบธรรมชาติตามกระบวนการทำงานของร่างกาย เช่น สารไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เมื่อฟิลเลอร์สลายตัวก็สามารถเติมใหม่ได้เรื่อยๆ นิยมใช้อย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
การฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย
ฟิลเลอร์เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA อย่างฟิลเลอร์ที่สามารถย่อยสลายเองได้ อย่างสารเติมเต็มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid : HA) ก็ปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์จะไม่เป็นปลอดภัยหากใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน อย.ไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ และจะต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน หากพลาดฉีดโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ฟิลเลอร์ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
ฟิลเลอร์เหมาะกับการฉีดบนใบหน้า โดยจุดบริเวณใบหน้าที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ คือ บริเวณใต้ตา ปาก คาง ร่องแก้ม จมูก ขมับ และหน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังจากผ่านไป 7-14 วัน ฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid จะสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างภายในร่างกาย
– ฟิลเลอร์หน้าผาก
การเติมฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน ไม่มีมิติ ให้นูนสวยได้สัดส่วนกับใบหน้าส่วนอื่น ฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยย่นที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวและรูปทรงบริเวณหน้าผากดังที่กล่าวไปข้างต้นเพื่อเพิ่มความสวยงามตามความพึงพอใจและปรับโหงวเฮ้งให้มีโชคลาภ วาสนา เป็นวิธีนึงที่เหมาะกับคนไข้ที่ไม่อยากผ่าตัด หมอจะแนะนำให้ใช้ 1-2 cc หากต้องการให้หน้าผากโหนกนูนเสริมโหงวเฮ้ง จะใช้ประมาณ 3-10 cc
– ฟิลเลอร์ใต้ตา
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย เช่น ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ให้กลับมาสดใส ผิวใต้ตาดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น และเต่งตึงมากขึ้น ใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ประมาณ 1-2 cc ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ก่อนการเข้ารับหัตถการควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินปัญหาก่อน ฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ รุ่นของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
– ฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่ริมฝีปาก การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยเติมเต็มร่องปากให้ดูชุ่มชื้น อวบอิ่ม ไม่แห้ง และตกร่อง รวมไปถึงฉีดฟิลเลอร์ปากยังสามารถปรับขนาดโครงสร้างปากให้เป็นรูปทรงที่สวยงามได้ รูปทรงปากที่นิยมในขณะนี้ คือ ปากสายฝอ ปากหนาแบบตะวันตก โดยใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ประมาณ 1-2 cc ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
– ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยแก้ปัญหาการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา และบริเวณร่องแก้ม การมีร่องแก้มลึกจะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย สามารถแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งมีการยุบตัวของกระดูกทั้งบริเวณใต้ตา และบริเวณร่องแก้มค่อนข้างมาก การยุบของกระดูกใต้ตาทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่เหนือร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มลึก จะใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ประมาณ 2 cc หรือมากกว่า ตามปัญหาของแต่ละบุคคล โดยอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน แล้วแต่ยี่ห้อและรุ่นที่เลือก
– ฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูก จะช่วยเพิ่มความคมของสันจมูก หรือปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย โดยสารที่ใช้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อปรับทรงจมูกนี้ เป็นสารเติมเต็มที่ชื่อว่า “กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid หรือ HA) ทำให้การฉีดจมูกด้วยกรดไฮยาลูรอนิคจึงค่อนข้างปลอดภัย เสี่ยงแพ้น้อย สารที่ฉีดสลายไปได้เองตามธรรมชาติ สามารถใช้ได้เพียงฟิลเลอร์ที่มีเนื้อค่อนข้างแน่น แข็ง ความคงตัวสูง ไม่ฟู ไม่ไหลง่าย เพื่อเลียนแบบกระดูก และกระดูกอ่อนที่เป็นฐานของทรงจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจในรูปทรงจมูกของตนเอง จมูกโด่งแต่ไม่มีดั้ง จมูกไม่โด่ง ไม่มีสันจมูก ปลายจมูกไม่ได้รูป ต้องการแก้ไขให้จมูกได้รูปสวยมากขึ้น การใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ประมาณ 1 cc สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
– ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปบริเวณคาง เพื่อเสริมคาง และปรับรูปหน้าให้ดูสมมาตร ช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน คางตัด เป็นต้น รวมไปถึงฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยปรับรูปหน้า ให้ดูสมมาตรขึ้น ไม่เหมาะกับคนที่คางสั้นมาก และต้องการเสริมคางให้ยาวขึ้นเกิน 1 ซม. หลังฉีดฟิลเลอร์คางเห็นผลทันที ไม่มีอาการบวมช้ำเหมือนการผ่าตัด และเนื้อฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ โดยใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ประมาณ 1 cc หรือมากกว่า ตามปัญหาของแต่ละบุคคล หากฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ก็จะปลอดภัย และได้ผลดีไม่แพ้การผ่าตัดเสริมคาง มีความเป็นธรรมชาติมาก อีกทั้งยังสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์คางจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ต้องมาฉีดซ้ำ ฟิลเลอร์คางอยู่ได้แค่ 1-2 ปี ต่อการฉีด 1 ครั้ง หากไม่มีการมาเติมฟิลเลอร์เนื้อฟิลเลอร์ก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
– ฟิลเลอร์ขมับ
ฟิลเลอร์ขมับ คือ การปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยเข้ารูปมากขึ้น เพราะจะทำให้โหนกแก้มที่เด่น ดูเหมือนยุบลง ทำให้หน้าหวานขึ้น ช่วยเติมเต็มบริเวณขมับตอบ ขมับลึก โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งในด้านการค้าขายและธุรกิจ นอกจากนี้ฟิลเลอร์ขมับยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยหางตาให้เต่งตึงขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น โดยใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ประมาณ 1-2 cc ตามปัญหาของแต่ละบุคคล อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่เลือก
ความเสี่ยงที่ได้อาจได้รับจากการฉีดฟิลเลอร์
ความเสี่ยงที่อาจได้รับจากการฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถเกิดได้หลากหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความรู้ ความเชี่ยวชาญและความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ หากแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจทำให้เกิดอาการช้ำจากเส้นเลือดเสียหาย ฟิลเลอร์ย้อนเข้าเส้นเลือดจนเกิดการอุดตัน
ความเสี่ยงจากความไม่ชำนาญของแพทย์
o ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด จนส่งผลให้เกิดเนื้อตายหรือตาบอด
o ใช้ฟิลเลอร์ผิดประเภท กับบริเวณที่ฉีด
o การติดเชื้อในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จมูก
o อาการปวด บวมแดง นูน เป็นก้อน หากไม่ได้ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและไม่ได้ระวังระหว่างฉีด อาจเกิดการเจ็บบริเวณจุดที่ฉีดได้
o เกิดภาวะฟกช้ำเนื่องจากเข็มผ่านเส้นเลือด
o ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อในบริเวณที่ไม่ต้องการ
หากผู้เข้ารับการรักษาศึกษาเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกมาก่อนการรักษา ผลข้างเคียงข้างต้นจะลดลง รวมทั้งเลือกสถานพยาบาลได้มาตรฐาน และเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญจริง ดำเนินการฉีดฟิลเลอร์จมูกเองในทุกขึ้นตอน
ความเสี่ยงจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน หรือฟิลเลอร์ถาวร
o อาจเกิดการแพ้สารฟิลเลอร์ปลอม และส่งผลต่อชีวิต
o มีหนองหรือน้ำเหลืองซึมจากการใช้ฟิลเลอร์ถาวร
o ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐานต้องขูดออกหรือผ่าตัดออกเท่านั้น
o ผิวหนังอาจเกิดตุ่ม ก้อน ผิวหนังขรุขระ และบวมใต้ผิวหนัง ภายหลังจากการติดเชื้อหรือการแพ้ฟิลเลอร์ปลอม
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
o ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่มีรอยแผลเป็น
o ฟิลเลอร์ให้ผลได้แม่นยำ สวยเป็นธรรมชาติ
o ฟิลเลอร์สามารถเติมได้เรื่อย ๆ ปรับแต่งได้
o ฟิลเลอร์ช่วยชะลอวัย หลังฉีดเห็นผลทันที และไม่ต้องพักฟื้น
o ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
o ฟิลเลอร์ไม่มีความเสี่ยงในการวางยาสลบ
o ฟิลเลอร์เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องการความละเอียดสูง
อันตรายที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์
– อาการทั่วไป
มีอาการบวมแดง หรือคันได้ในจุดที่ทำการฉีดฟิลเลอร์เป็นปกติ ให้เลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ส่วนมากจะเป็นพวกรอยเขียวช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์ จะสามารถแก้ไขหรือหายไปเองได้ ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากเทคนิคการฉีดของแพทย์ อาการต่างๆจะค่อยดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
– อันตรายแบบรุนแรง
การฉีดฟิลเลอร์แล้วอุดตันในเส้นเลือดและเส้นประสาทบนบนใบหน้า ที่ทำให้เกิดอาการเนื้อตาย จากการที่เลือดไม่สามารถไปหล่อบริเวณนั้นได้ ส่งผลให้จอประสาทตาตาย (Retinal Artery Occlusion) มักจะมีอาการปวดหัวหรือกระบอกตาร่วมด้วยทันทีหลังฉีด ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างมาก
ข้อแนะนำสำหรับผู้บริโภคหากต้องการฉีดฟิลเลอร์
– เลือกคลินิกเวชกรรมเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน
ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่อนุญาต ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ เลือกคลินิกที่มีแพทย์ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมประจำคลินิก รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า คลินิกต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล และสามารถสอบถามอัตราค่ารักษาได้ ควรเลือกดูคลินิกที่สะอาด ปลอดภัย ภายในคลินิกมีการกำจัดขยะติดเชื้ออย่างถูกต้อง ใช้ฟิลเลอร์แท้
– แพทย์ต้องเชี่ยวชาญและตรวจสอบได้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ต้องสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากฐานข้อมูลแพทยสภา มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ต้องมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อฉีดแก้ปัญหาบริเวณใบหน้าได้อย่างตรงจุด และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น แพทย์ควรเชี่ยวชาญในด้านการปรับรูปหน้า และการชะลอวัย เพื่อสามารถประเมินรูปหน้าของคนไข้ได้อย่างเหมาะสมว่า บริเวณไหนควรปรับแก้ เพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เช่น เนื้อตาย ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด หรืออาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ
– ห้ามซื้อฟิลเลอร์มาฉีดด้วยตัวเอง
การซื้อฟิลเลอร์มาฉีดด้วยตนเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ เนื่องจากอาจขาดความเชี่ยวชาญ ความรู้ และเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้หากไปซื้อฟิลเลอร์มาจากแหล่งที่ไม่ใช่บริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายที่นำเข้าฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง อาจเจอฟิลเลอร์ปลอมได้
– ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ก่อนการฉีด
ควรตรวจสอบฟิลเลอร์ให้แน่ใจก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ และเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทยเท่านั้นก่อนทุกครั้ง โดยสังเกตุฟิลเลอร์แท้เบื้องต้นได้แก่ มีบอกวันหมดอายุอย่างชัดเจน ที่กล่อง เลข Lot ที่หลอด เลข Lot ที่สติกเกอร์ ต้องตรงกัน มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง ฟิลเลอร์บางยี่ห้อสามารถสแกน QR Code ด้วยแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบได้ สามารถโทรสอบถามเลข Lot ได้ที่บริษัทนำเข้าของแต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์
– ดูรีวิวประกอบการตัดสินใจ
ไม่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ราคาถูกมากจนเกินไป ไม่โฆษณาเกินจริง ก่อนการเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกแต่ละที่ควรดูรีวิวที่น่าเชื่อ ควรเลือกคลินิกที่ไม่ขายคอร์สมากจนเกินไป หรือควรเลือกคลินิกที่มีหมอเป็นผู้ประเมินอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงควรหารีวิวจากในแหล่งที่เป็นกลางควบคู่กันไปด้วย ไม่ควรดูแต่รีวิวที่ทางคลินิกเป็นผู้โพสต์แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากบางคลินิกอาจใช้ภาพรีวิวที่ผ่านการรีทัชรูปมา
ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนปลอดภัย
การฉีดฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน หน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงเยอะเท่าการผ่าตัดศัลยกรรมและไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คนไข้สามารถค่อย ๆ ทยอยฉีดทีละส่วนได้ การเลือกว่าฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี สามารถเริ่มพิจารณาได้จาก การศึกษาของคุณหมอที่เกี่ยวข้องกับการฉีดฟิลเลอร์ ควรเป็นแพทย์ที่เรียนมาด้านผิวหนังโดยตรง เพราะสามารถวิเคราะห์สาเหตุของการชรา ในผู้ป่วยรายนั้นได้อย่างแม่นยำ ให้การรักษาที่สาเหตุตรงจุด การเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีจึงควรเริ่มต้นดูจากการศึกษาแพทย์ที่ให้การรักษา แต่ก็มีหลาย ๆ คนที่ผิดหวังกับการฉีดฟิลเลอร์เนื่องจากผลที่ได้ ออกมาไม่เป็นธรรมชาติ ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษา จะเข้าใจลักษณะต่างๆ ทางกายวิภาคของโครงสร้างใบหน้าแบบถูกต้อง รู้จุดโครงสร้างกระดูกที่ช่วยพยุงใบหน้า รู้การเคลื่อนตัวของชั้นไขมันผิวหน้าที่ก่อให้เกิดความหย่อนคล้อย รู้แขนงเส้นเลือดเพื่อป้องกันการเกิดอันตราย
การขูดฟิลเลอร์
หากมีอาการบวม แดง อักเสบ เนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเอง จากการพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม เกิดเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อย หากฉีดมาเป็นเวลานานจนเป็นพังผืดเกาะ วิธีแก้ไขคือต้องผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออก หากปล่อยทิ้งไว้นานก็ไม่สามารถเอาเนื้อฟิลเลอร์ปลอมออกได้หมด
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี
ฟิลเลอร์ หรือ Filler คือ สารเติมเต็มที่ช่วยแก้ไขปัญหาบนใบหน้า การพิจารณาว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราทุกคนมีใบหน้าเดียว หากตัดสินใจเลือกผิดพลาดไปแล้ว บางสิ่งอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อประเมินปริมาณการใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับจุดที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ โดยสารที่นิยมใช้คือ สารไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ไม่ว่าจะฉีดเพื่อเติมเต็มส่วนที่ลึก โหล ตอบ บนใบหน้าให้ดูสมส่วน หรือช่วยปรับ ยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า และริมฝีปาก เพื่อความมั่นใจ สบายใจ และปลอดภัยสูงสุด สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ และสอบถามข้อสงสัยเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ