สิวไม่มีหัว เกิดจากอะไร
สิวประเภทนี้ที่หลายๆคนเรียกว่าสิวอุดตัน มีลักษณะนูนออกมาจากบริเวณชั้นผิว เป็นตุ่มๆสีแดง ไม่มีหัว มีขนาดเป็นจุดเล็กๆถึงขนาดเป็นตุ่มขนาดปานกลาง บางรายอาจจะไม่ได้สังเกตเห็นเนื่องจากมีขนาดเล็กมาก ถ้าไม่ได้ตั้งใจมองหรือใช้มือสัมผัสก็จะไม่รู้ว่ามีสิวอุดตันขึ้นบริเวณบนใบหน้า สามารถเกิดขึ้นได้หลายจุดพบเห็นได้บ่อยบริเวณรอบใบหน้าหรือส่วนอื่นๆในร่างกาย สิวประเภทนี้ไม่ควรกดหรือบีบ เพราะอาจจะทำรู้สึกเจ็บและปวดจนเกิดการอักเสบหรือที่หลายๆคนเรียกว่าเป็นสิวอักเสบ สิวเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย เช่น เกิดจากความเครียด กรรมพันธุ์ อาการร้อน ฝุ่น การเปลี่ยนแปลงของงฮอร์โมนทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาผิดปกติ การรับประทานอาหารที่มีน้ำมันมากเกิดไป และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไปอุดตันรูระบายไขมันหรือรูขุมขนทำให้เกิดเป็นสิวไม่มีหัว สามารถเกิดขึ้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง จะพบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น ตามพวกเรา Topstarclinic ไปอ่านกันได้เลย
บริเวณที่เกิดสิวอุดตันได้ง่าย
สิวอุดตันสามารถเกิดได้ทั่วทั้งร่างกายและบริเวณใบหน้า ควรสังเกตว่าบริเวณไหนที่สิวอุดตันเกิดขึ้นบ่อยเป็นประจำ เพราะเมื่อสิวอุดตันเกิดบริเวณเดิมซ้ำเป็นประจำ จะทำให้พบปัญหาของรอยแผลเป็นและหลุมสิว ควรพยายามหมั่นทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวอย่างเป็นประจำ เพื่อลดอัตราการเกิดสิวบริเวณเดิมซ้ำๆ บริเวณที่มักเกิดสิวอุดตันเป็นประจำ มีดังนี้
บริเวณแก้ม สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นบริเวณนี้ได้ง่าย เพราะเป็นบริเวณที่สิ่งสกปรกจากการใช้โทรศัพท์แนบกับใบหน้า เส้นผสมของเราเอง มือของเราที่ไปจับสิ่งสกปรกก่อนแล้วมาสัมผัสใบหน้าด้วยความเคยชิน หรือสิ่งสกปรกจากมลภาวะต่างๆที่มาสภาพแวดล้อมต่างๆ
บริเวณคาง เป็นอีกจุดที่สามารถเกิดสิวอุดตันบริเวณนี้ได้ง่าย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมนในร่างกาย สภาพแวดล้อม มลภาวะสิ่งสกปรกต่างๆ พฤติกรรมการชอบใช้มือสัมผัสใบหน้า เป็นต้น โดยความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อส่งผลให้ไปกระตุ้นต่อมไขมันที่ใบหน้า ทำให้ผลิตไขมันออกมามากกว่าปกติ จนเกิดการอุดตันในรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวฮอร์โมนขึ้นตามมา โดยส่วนใหญ่มักพบที่บริเวณคางและหากเป็นคนประเภทชอบสัมผัสหรือชอบบีบ แคะ แกะ เกา จะทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบได้ ในส่วนของสภาพแวดล้อม มลพิษ มลภาวะต่างๆ ฝุ่นและควันก็มักจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตันบริเวณคางได้ง่าย เนื่องจากบริเวณคางเป็นบริเวณที่ทำให้เกิดสิ่งสกปรกสะสมได้ง่ายไม่ว่าจะจากการใช้มือสัมผัสหรือการที่ฝุ่นละอองหรือมลภาวะต่างๆเกาะ เพราะบริเวณคางหรือที่เรียกกันว่าบริเวณ T-zone ซึ่งจะมีความมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ หากล้างหน้าไม่สะอาดเพียงพอหรือไม่ใส่ใจในการทำความสะอาดบริเวณคาง ก็อาจทำให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันขึ้นเช่นกัน
บริเวณจมูกและหน้าผาก หลายๆท่านเรียกบริเวณนี้ว่า T-zone เป็นบริเวณที่มีความมันสะสมเนื่องจากการผลิตของต่อมไขมันต่างๆมากเกินไป ส่งผลให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนของต่อมไขมัน รวมถึงความผิดปกติในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณนั้นออกและเกิดการอุกตันจากสิ่งสกปรก
รูปแบบกลุ่มสิวอักเสบ
ประเภทของกลุ่มสิวอักเสบสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่มแล้วแต่ความรุนแรงของการอักเสบ สามารถแบ่งได้ดังนี้
สิวตุ่มนูนแดง (Papule) เป็นลักษณะเม็ดสิวหัวแดงขนาดเล็ก เมื่อใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้าจะรู้สึกถึงไตแข็งๆ นูนๆ บริเวณใบหน้าใต้ผิวหนัง ส่วนมากสิวประเภทนี้เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตันในระยะเริ่มต้น สามารถเกิดขึ้นบริเวณใดบริเวณหนึ่งบนใบหน้า หากเกิดขึ้นในบริเวณเดิมซ้ำๆจะทำให้เกิดปัญหาหลุมสิวหรือก่อให้เกิดรอยแผลเป็นได้ ควรทำความสะอาดหน้าบริเวณที่สิวเกิดขึ้นมาบ่อยๆอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอและรีบรักษาสิวที่เกิดขึ้น เป็นสิวที่เกิดได้จากการติดเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกผสมกับการอุดตันของรูขุมขน หรือเกิดจากการพัฒนาโดยการให้มือสัมผัส กด บีบ แคะ แกะ เกา ทำให้เกิดการระบมและการอักเสบของสิว และกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด ควรรีบทำการรักษาเพราะถ้าปล่อยสิวประเภทนี้ทิ้งไว้นานก็อาจจะทำให้กลายเป็นสิวหัวหนองได้
สิวหัวหนอง (Pustules) มีลักษณะเป็นเม็ดสิวที่คล้ายกับสิวตุ่มนูนแดง แต่มีลักษณะเป็นตุ่มที่ตรงกลางจะมีจุดสีขาวขุ่นหรือสีขาวเหลือง โดยจุดสีขาวขุ่นคือหนองที่เกิดภายใต้ชั้นผิวนั้นเอง จะเป็นสิวที่เต็มไปด้วยน้ำมัน และเชื้อแบคทีเรีย สามารถมองเห็นหนองสีขาวขุ่นอยู่ภายในสิวได้ด้วยตาเปล่า เกิดจากรูขุมขนที่ติดเชื้อจนทำให้เกิดกลายเป็นตุ่มมีหนอง หนองในสิวจะเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบและสิวติดเชื้อ ขนาดเม็ดสิวประเภทนี้มีตั้งแต่ขนาดเล็ก ถึงขนาดใหญ่ และมักมีอาการเจ็บปวดเวลาสัมผัสโดนแต่ไม่รุนแรง หากเกิดการอักเสบจะส่งผลให้มีอาการเจ็บปวดตามมาได้ โดยสิวหัวหนองสามารถเกิดขึ้นที่บริเวณผิวหนังทั่วร่างกาย
สิวหัวช้าง (Acne Conglobata) มีลักษณะเป็นสิวที่มีขนาดใหญ่และไม่มีหัว มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดง แข็งเหมือนสิวเป็นไตแต่ไม่มีหัวสิว เจ็บปวดเมื่อมีอะไรไปสัมผัสโดน เป็นสิวไม่มีหนอง เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันที่มาจับตัวรวมกันภายใต้บริเวณชั้นผิวหนัง มีแบคทีเรียที่เจริญเติบโตอยู่ในตุ่มสิว แบคทีเรียเหล่านี้มีสารเอนไซม์ที่ใช้สำหรับย่อยน้ำมันในตุ่มสิวให้กลายเป็นกรดไขมัน และสิวอักเสบสามารถแบ่งได้หลายระดับ ซึ่งประเภทของสิวหัวช้างถือว่าเป็นสิวอักเสบที่มีอาการถือว่าค่อนข้างรุนแรง มีโอกาสทำให้เกิดเป็นแผลลึก หรือสามารถพัฒนาเป็นฝีได้ ควรให้ความสำคัญในการดูแลรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก สิวหัวช้างไม่สามารถรักษาได้ด้วยการไปกดหรือบีบสิวให้ออกมาได้ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบของสิว โดยปกติสิวหัวช้างจะเกิดขึ้นครั้งละไม่มาก แต่สามารถกระจายตัวเมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง
รูปแบบกลุ่มสิวไม่อักเสบ
สิวหัวดํา (Blackhead) เป็นประเภทของสิวอุดตันชนิดหนึ่งมีลักษณะ นูนๆและมีสีคล้ำหรือดำ เป็นสิวขนาดเล็ก เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน มีไขมันอุดตันภายในรูขุมขนและสิ่งสกปรกอื่นๆสะสมที่หลงเหลืออยู่ในรูขุมขน แตกต่างจากสิวประเภทอื่นตรงที่ไม่มีเชื้อแบคทีเรียผสม เป็นสิวประเภทที่ยังไม่รุนแรง เมื่อใช้มือสัมผัสบริเวณที่เกิดสิวจะรู้สึกได้ถึงความนูน และสากเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการเจ็บปวดเวลาสัมผัส สิวประเภทนี้จะคล้ายกับสิวเสี้ยนหัวดำ (Trichostasis Spinulosa) เราจะสามารถรับรู้ได้ด้วยการใช้มือสัมผัส โดยสิวเสี้ยนหัวดำ จะรู้สึกขรุขระเหมือนมีเสี้ยนเล็กๆที่บริเวณผิวของเรา
สิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นประเภทสิวอุดตันหัวปิดชนิดหนึ่ง มีลักษณะนูนขึ้นมาเล็กน้อยจากบริเวณผิว ส่วนใหญ่มักมีขนาดเล็ก คล้ายกับสิวหัวดำแต่สิวหัวขาวเกิดจากแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันอยู่ภายในรูขุมขน จากสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งสกปรกจากมลพิษและฝุ่นละอองที่เข้าไปอุดตันตามรูขุมขน อากาศร้อนจากแสงแดดและการอับชื้นก็เป็นอีกสาเหตุของการเกิดสิวประเภทนี้ สิวหัวขาวสามารถมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนบริเวณผิว และสามารถกลายเป็นสิวอักเสบได้ เพราะใช้เวลานานในการรักษา กว่าจะรักษาให้หัวสิวหลุดจึงทำให้เกิดการสะสมและกลายเป็นสิวอักเสบ
สาเหตุการเกิดสิวอุดตัน
สิวอุดตันเกิดจากการจับตัวของสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ใต้บริเวณผิวหนัง รวมถึงน้ำมันจากไขมันที่ไม่สามารถออกมาจากรูขุมขนได้ เนื่องจากมีสิ่งตกค้างอื่นๆอุดตันอยู่ภายในรูขุมขน จนทำให้เกิดการอุดตันและเป็นตุ่มเล็กๆ นู่นขึ้นมาจากบริเวณใต้ผิวหนัง สังเกตได้ง่ายด้วยการส่องกระจก หรือเวลาใช้มือสัมผัสบริเวณต่างๆที่เกิดสิวอุดตัน จะรู้สึกถึงความนู่นเป็นตุ่มอยู่ภายใต้ผิว สาเหตุของการเกิดสิวอุดตันได้แก่
– เกิดจากการกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน จากมลภาวะต่างๆ จับตัวรวมกับสิ่งสกปรก อุดตันบริเวณรูขุมขน
– เกิดจากการบีบสิว การเกา หรือการขัดหน้า เป็นการกระตุ้นและทำให้ผิวหน้าระคายเคือง จนเกิดการอักเสบ
– ล้างหน้าบ่อยหรือล้างด้วยน้ำอุ่นมากจนเกิดไป ทำให้ต่อมที่ผลิตน้ำมันผลิตน้ำมันออกมาไม่ทัน ทำให้ผิวเกิดการแห้งและขาดน้ำ เกิดการระคายเคืองของผิว จนเกิดเป็นสิวอุดตัน สิวผด หรือสิวอักเสบ
– ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกกับผิวหน้า เช่น โฟมล้างหน้า เครื่องสำอาง น้ำยาสระผม ทำให้เกิดอาการแพ้สารเคมีบางชนิดที่มีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง
– เกิดจากอากาศที่ร้อนและแสงแดด ส่งผลทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักผลิตน้ำมันออกมาเป็นปริมาณมากจนเกินไป และทำให้ผิวไม่สามารถระบายเหงื่อออกได้ทัน จึงเป็นอีกสาเหตุของการเกิดการอุดตันได้
– ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
แนวทางการรักษาหัวสิว
สิวอุดตันสามารถรักษาได้หลากหลายวิธี ตามอาการหรือตามระดับความรุนแรงของสิว สามารถรักษาสิวอุดตันได้ด้วยตัวเองโดยการใช้ยา หรือสกินแคร์เพื่อลดความรุนแรงของสิว ที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา กรณีที่รักษาด้วยตัวเองแล้วยังไม่มีอาการดีขึ้นสิวไม่ยุบ ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาผิวหนังปรึกษาปัญหาเพื่อที่จะได้ทำการรักษาอย่างถูกต้อง
ยาทาสำหรับรักษาสิวกลุ่มสิวอักเสบ ได้แก่
ยาทาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ (Topical antibiotics) มีคุณสมบัติสามารถลดการอักเสบของสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรใช้รักษาเป็นตัวเลือกทางเดียว เพราะจะทำให้แบคทีเรียเกิดการดื้อยาได้ง่าย ควรรักษาร่วมกับยาตัวอื่นในช่วงระยะแรก และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกรก่อนใช้
ยากลุ่ม Benzoyl peroxide มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยละลายหัวสิวอุดตัน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตันของสิว อาจจะทำให้มีผลข้างเคียง เช่น คัน แสบ ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย ในช่วงแรกๆที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยากลุ่มนี้ ควรทาทิ้งไว้ก่อนทำความสะอาดผิวหน้าประมาณ 5-15 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ยาทาเรตินอยด์ (Tretinoin อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ) มีคุณสมบัติใช้ทาฆ่าเชื้อ ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนัง ลดการอักเสบของสิวอุดตัน ช่วยลดอาการบวมของสิว สามารถใช้ร่วมกับการรักษาสิวอุดตันได้ทุกระยะ และสามารถใช้ทาผิวเพื่อป้องกันการก่อให้เกิดสิวอุดตันได้อีกด้วย อาจทำให้มีผลข้างเคียงบริเวณที่ทา เช่น คัน แสบ ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย ทำให้ผิวหน้าบางลง และไวต่อแสงมากขึ้น จึงต้องขยันทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกแดด หญิงตั้งครรภ์และที่อยู่ระหว่างให้นมบุตรห้ามใช้ มีทั้งแบบเจลใสและแบบครีม สามารถหาซื้อได้ง่าย
สกินแคร์ลดสิวสำหรับผิวเป็นสิว
เหมาะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องสิวอักเสบระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง โดยสกินแคร์ส่วนใหญ่จะช่วยในการดูแลเรื่องของสิวอักเสบ เพราะมีส่วนผสมของ กรดไฮดรอกซี ที่ออกฤทธิ์อย่างอ่อนโยนในการช่วยผลัดเซลล์ผิว และยังช่วยจัดการกับต้นต่อของปัญหาผิวต่างๆได้อีกด้วย สามารถแบ่งได้หลายประเภทตามคุณสมบัติของกรดต่างๆ โดยที่ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ ได้แก่
กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA มีคุณสมบัติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ดำคล้ำให้หลุดลอกออกไป จึงทำให้บริเวณรอยสิวดูจางลง ช่วยละลายการอุดตันของไขมันในรูขุมขน แถมยังช่วยลดอาการอักเสบ กระชับรูขุมขน และช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้มีผิวหน้าที่เรียบเนียน ดูสว่างสดใส ซึ่งเป็นกรดที่ได้จากการสกัดของผลไม้
กรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta hydroxy acid) หรือ BHA มีคุณสมบัติช่วยละลายน้ำมันได้ เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวเป็นสิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าได้อย่างอ่อนโยน แถมยังช่วยในเรื่องของการฟื้นบำรุงผิวที่ระคายเคืองและช่วยลดการอักเสบ เป็นกรดซาลิไซลิกที่ได้จากการสังเคราะห์
ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลผิว ลดสิวอักเสบ
ผลิตภัณฑ์ในการใช้ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสิวอักเสบ และสภาพผิว
เจลล้างหน้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า มีคุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่บริเวณผิวหน้า และช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก อ่อนโยนต่อผิว สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ ลดสิวอุดตันและช่วยบรรเทาอาการของสิวอักเสบบนใบหน้า
สกินแคร์ดูแลลดสิวอักเสบ เป็นผลิตภัณฑ์ใช้ทาผิวบริเวณใบหน้า ช่วยดูแลสิวปัญหาสิวต่างๆ เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน ช่วยลดรอยดำและรอยแดงจากการเกิดสิว ช่วยบำรุงผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าแข็งแรง ชุ่มชื้น ไม่แห้ง แถมยังช่วยลดอัตราการเกิดซ้ำบริเวณเดิมของสิวได้ด้วย
ครีมกันแดดคุมมัน เป็นผลิตภัณฑ์ใช้ทาผิวบริเวณใบหน้า มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้า ปกป้องผิวจากรังสีUVที่มาจากแสงแดด ไม่ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน เพื่อลดสาเหตุของการเกิดสิว เพราะแสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดการอักเสบของสิว
วิธีดูแลรักษาและป้องกันสิว
ปัจจุบันได้มีความรู้สมัยใหม่เข้ามาใช้ในการรักษาทางด้านการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาสิว พร้อมกับช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและการอักเสบให้เบาลงของสิวอักเสบ จนกระทั่งสิวต่างๆหายไปในที่สุด ปัจจุบันมีวิธีการรักษาสิวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทายา การกดสิว การฉีดสิวหรือการเลเซอร์ สามารถเลือกวิธีได้ตามความต้องการและเหมาะสมกับการรักษาของคนไข้ อีกทั้งปัจจุบันยังมีอีกหลายวิธีในการช่วยรักษาสิวชนิดต่างๆให้ลดน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้า การเลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับผิวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนส่วนมากในปัจจุบัน
การทำความสะอาดผิวหน้า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เน้นในการช่วยควบคุมความมันส่วนเกินและช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าออก นอกจากนี้ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางในการทำความสะอาดทุกครั้งให้สะอาดโดยเช็ดตามแนวรูขุมขนให้ทั่วหน้าเริ่มจากบริเวณที่มีสิวอุดตันหรือบริเวณที่เกิดสิวอุดตันบ่อย ไม่ควรปล่อยทิ้งเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกค้างไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ก่อเกิดสิวอุดตันได้
การใช้ผลิตภัณฑ์ยาลดสิว มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ การใช้ผลิตภัณฑ์ใช้ยาทาสิวและการทานยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้า ช่วยลดการติดเชื้อและการอักเสบของสิว ก่อนการรักษาด้วยวิธีการทานยาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกรก่อน เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกรจะช่วยแนะนำการรักษาให้เหมาะสมหรือตามระดับความรุนแรงของประเภทสิวที่เป็น
การเลือกใช้เครื่องสำอาง การใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ก็มีผลต่อการทำให้เกิดสิวอุดตันได้เช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผู้ที่มีผิวมันควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน และยิ่งพวกที่มีเนื้อสัมผัสที่หนาจนเกินไปและหนักจะยิ่งช่วยทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย ควรหาพวกที่มีเนื้อบางเบาหรือเนื้อเจลเพราะจะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า จึงมีโอกาสทำให้เกิดสิวอุดตันในรูขุมขนได้น้อยกว่า ควรหาสกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่ช่วยในการควบคุมความมันและสามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้
ลดการทานอาหารที่มีไขมันสูงอาหารรสจัด เนื่องจากอาหารที่มีรสหวานจัดหรือรสเค็มจัดจนเกิดไป รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง จะทำให้ระบบในการย่อยอาหารภายในร่างกายทำงานหนักกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสในการเกิดสิวง่ายขึ้น ควรปรับเปลี่ยนวิธีในการกิน เลือกทานแต่อาหารที่ให้วิตามิน โปรตีน และแร่ธาตุ เพื่อช่วยชำระล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ภายในร่างกาย และยังช่วยลดการก่อให้เกิดความมันบนใบหน้าที่มากจนเกินไป แนะนำให้เลือกทานอาหารที่ให้ไขมันดีจากอาหารประเภทเนื้อปลาทะเล มะพร้าว ถั่ว อะโวคาโด้ เพราะอาหารเหล่านี้จะมีกรดไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
การพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอสำคัญต่อการช่วยฟื้นฟูร่างกาย ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูกระบวนการต่างๆภายในร่างกายในขณะที่กำลังนอนหลับพักผ่อน นอกจากนี้การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอยังส่งผลทำให้เกิดอาการผิดปกติบางอย่างภายในร่างกายและทำให้เกิดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันมากผิดปกติซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันได้เช่นกัน
หลีกเลี่ยงผิวจามลภาวะ มลภาวะสิ่งสกปรกสามารถไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำมันบนบริเวณใบหน้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสิวต่างๆตามมา ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงมลภาวะ และควรปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติช่วยในการปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งสกปรกได้ เช่นหาผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่สามารถลดการเกาะติดของมลภาวะก็จะช่วยทำให้ลดการเกิดสิวที่มีสาเหตุมาจากมลภาวะได้
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การใช้มือสัมผัสใบหน้าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดปัญหาสิวต่างๆตามมา ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการไม่ให้สิ่งต่างๆสัมผัสใบหน้าทั้งจากมือหรืออุปกรณ์ สิ่งของต่างๆเช่นโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า หรือสิ่งที่อยู่รอบๆตัว เพราะอาจจะมีสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียตกค้างอยู่ในสิ่งของมากมายส่งผลทำให้เกิดปัญหาสิว หรือจะป็นการสัมผัสใบหน้าด้วยการแคะ แกะ และเกาทำให้ใบหน้าเกิดการระคายเคือง อาจเป็นสาเหตุที่ไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้นทำให้การรักษาทำได้ยากขึ้น ดังนั้นควรให้อะไรสัมผัสใบหน้าก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้นและระมัดระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ต้องสัมผัสใบหน้าอย่างอ่อนโยน
การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการในร่างกายแต่ละวัน เพราะจะช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น น้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แตกแห้งจนเกินไป ช่วยลดปัญหาหน้ามันและช่วยกำจัดของเสียที่อยู่ภายในร่างกายออกมา ทำให้มีผิวพรรณที่ดีดูเปล่งปลั่ง
ทำยังไงให้หน้าใสไร้สิว
เชื่อว่าใครหลายๆคนก็อยากที่จะมีผิวหน้าที่เรียบเนียนใสและเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันมีเคล็ดลับดีสูตรเด็ดในเรื่องการช่วยดูแลรักษาผิวหน้าอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลปัญหาสิว การบำรุงผิวหน้าให้สวยใสเรียบเนียนหรือจะเป็นเคล็ดลับหน้าใสไร้สิว ซึ่งมีทั้งสูตรที่มาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติและเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยทางการแพทย์ ซึ่งแต่ละวิธีจะเหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละคน ซึ่งการดูแลผิวสูตรธรรมชาติบางวิธีก็จะสามารถช่วยดูแลและป้องกันการเกิดสิวได้นั้นเอง สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆที่บ้าน ในส่วนของตัวช่วยทางเลือกทางการแพทย์ เช่น การฉีดผิวหน้าด้วยเมโสหน้าใส การฉีดรีจูรัน หรือการฉีดวิตามิน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
การฉีดเมโส เป็นทางเลือกตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ที่อยากเห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นทางลัดในการดูแลผิวหน้าโดยนำส่วนผสมที่ต้องการในครีมบำรุงต่างๆฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยตรง ทำให้ตัวยาที่ฉีดออกฤทธิ์และเห็นผลไว จากที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2-3 เดือน แต่การฉีดเมโสหน้าใสจะให้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่า โดยจะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 1-2 สัปดาห์
การฉีดรีจูรัน เป็นการบำรุงผิวขั้นสุดที่กำลังฮิตในปัจจุบัน เป็นการช่วยฟื้นฟูผิวด้วยลินิวครีโอไทด์ ซึ่งได้มาจากชิ้นส่วน DNA ของปลาแซลมอน สามารถช่วยซ่อมแซมผิวได้ในระดับล้ำลึก และยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างตัวใหม่ของเซลล์ผิวเพื่อฟื้นฟูบาดแผลและแก้ปัญหาผิวที่กำลังเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัย ใบหน้าเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลงและยังช่วยแก้ปัญหาฝ้าและจุดด่างดำต่างๆได้อีกด้วย
การฉีดวิตามินซี เป็นอีกวิธีในการทำให้หน้าและผิวพรรณใสขึ้น เป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะทำให้ผิวใสและดูมีออร่าเปร่งประกายมากขึ้น การฉีดวิตามินกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวยาที่ผสมหลักๆคือวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการ ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นตัวเลือกในการช่วยฟื้นฟูอย่างล้ำลึก ช่วยทำการปรับสภาพผิวหน้าให้มีความเรียบเนียนขึ้น หลังฉีดจะทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาวและใส่เด้งเหมือนเด็ก แถมยังช่วยยกกระชับรูขุมขนทำให้หน้าเรียบเนียนดูอ่อนกว่าวัยขึ้นอีกด้วย
การเลเซอร์หน้าใส IPL เป็นตัวช่วยรักษาและจัดการผิวหน้าด้วยพลังงานแสงจากเครื่องเลเซอร์ยิงลงไปเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวจากชั้นผิว ช่วยลดอาการอักเสบของผิวและช่วยทำให้เกิดการขึ้นของสิวน้อยลง เหมาะกับผู้ที่อยากให้ผิวหน้าดูใสไร้สิวและผิวเรียบเนียน