วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ บนใบหน้า มีอะไรบ้าง วิธีที่เห็นผลที่สุด
ฝ้า เป็น ภาวะที่เซลล์สร้างที่เม็ดสีในผิวหนังทำงานมากขึ้นกว่าปกติ ในผิวหนังจึงมีเม็ดสีหรือเมลานินมากขึ้นกว่าปกตินอกจากเซลล์ เมื่อระบบการสร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้นแล้วก็จะพบว่าจำนวนเม็ดสีอาจเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้มักจะพบฝ้าบริเวณที่ร่างกายสัมผัสกับแสงแดด เช่น ใบหน้า และโดยเฉพาะหน้าผาก แก้ม จมูก เหนือริมฝีปากบน กราม เป็นต้น บุคคลส่วนใหญ่มักเป็นฝ้าในอายุ 30-40 ปี สามารถพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ฝ้าเป็นเพียงรอยดำเป็นจุดที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่มักจะส่งผลต่อความมั่นใจ และการเข้าสังคมรวมทั้งทำให้เสียเวลาและคุณภาพชีวิตเพราะอาจจะต้องใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดฝ้าตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้าน หรือ เข้าสังคมด้านใน
กระ คือ จุดสีน้ำตาลเล็กๆ ที่ขึ้นบริเวณใบหน้า ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น กรรมพันธุ์หรือแสงแดดที่เผชิญทุกวัน โดยที่ผิวไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ ชนิดของกระนั้น สามารถวัดจากระดับความรุนแรงและอาการ เรามักได้ยินคำว่า กระตื้น กระลึก กระแดดกันมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันการรักษากระเป็นนิยมเป็นอย่างมาก เพราะกระบนใบหน้ากลายเป็นจุดรบกวนสายตา ต้องแต่งหน้าปกปิด กระสามรถขึ้นได้บนใบหน้าและ ร่างกายส่วนอื่นๆ เช่น คอ แขน
ฝ้ามีกี่ประเภท แตกต่างกันยังไง
1.ฝ้าแดด ฝ้าแดด หรือเบางคนเรียกว่า ฝ้าแดง ที่เกิดจากแสงแดด เป็นผลมาจากรังสียูวีเอและยูวีบี เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นรังสีที่มีความเข้มข้นสูงมากกว่าแสงแดดที่มีวิตามิน เป็นรังสีที่มีคลื่นความยาวสูงทำให้ทำลายผิวได้ลึกทุกชั้นผิว เกิดการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีผิวภายในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าเสียมีความคล้ำเสีย หน้าหมองคล้ำ และทำให้เกิดเป็นฝ้าแดดได้ อีกทั้งรังสีอัลตราไวโอเลตนอกจากจะเจอที่แสงแดดยังพบได้ในหน้าจออุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน หลอดไฟต่างๆ ก็ยังกระตุ้นผิวหนังให้ผลิตสีคล้ำเสียได้เช่นเดียวกับแสงแดด การโดนรังสีจำพวกนี้บ่อยๆซ้ำๆ จะทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้น ฝ้าเข้มและชัดมากกว่าเดิม
2.ฝ้าเลือด มักจะเป็นปื้นสีแดง เกิดจากการที่ระบบเลือดลมและฮอร์โมนในร่างกายที่มักมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ หรืออาจจะเกิดจากการใช้ยาบางประเภท อย่างเช่น ยาเกี่ยวกับฮอร์โมน หรือ เป็นยาที่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยทำงานอย่างผิดปกติ หากโดนความร้อนหรือแสงแดดฝ้าเลือดอาจจจะมีสีแดงและเข้มมากกว่าเดิม
3.ฝ้าตื้น ฝ้าแบบตื้นมักจะมีลักษณะสีออกน้ำตาลเข้ม ทำให้เห็นขอบได้ชัด เป็นฝ้าชนิดที่เกิดขึ้นได้ง่าย และสามารถรักษาให้จางลงได้ง่าย เพราะอาการฝ้าตื้นเกิดขึ้นในระดับชั้นผิวหนังกำพร้า หรือผิวหนังชั้นนอก ถึงแม้ว่าฝ้าชนิดนี้จะสามรถรักษาได้ง่าย แต่การลดฝ้า กระ จุดด่างดําตามธรรมชาตินั้นสามรถทำได้ยากมาก แต่ถึงอย่างไรก็จำเป็นต้องมีการรักษาให้มีสีจางลงด้วยการใช้ยาทาฝ้าอยู่ดี และเพิ่มการป้องกันการเกิดฝ้าด้วยครีมกันแดดเสริม หรือ หาอุปกรณ์บังแดดเมื่อออกแดด
4.ฝ้าลึก ฝ้าแบบลึกมักจะมีลักษณะสีอ่อน อาจจะเป็นสีน้ำตาล สีเทา หรือสีม่วงก็ได้ แต่จะเห็นขอบไม่ชัดเจนมากเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่ชั้นในของผิวหนังที่ลึกลงไปทำให้มีความจางมากกว่า เป็นฝ้าที่สามรถรักษาได้ยาก เพราะเกิดในชั้นผิวที่ลึกกว่าชั้นผิวหนังกำพร้า จนทำให้เกิดความผิดปกติในระดับผิวหนังแท้
5.ฝ้าแบบผสม บางคนก็อาจจะเป็นฝ้าเพียงชนิดใดชนิดหนึ่ง ส่วนบางคนก็อาจจะเป็นฝ้าผสมในหลายแบบ ซึ่งจะเป็นการผสมของการเป็นฝ้าทั้งสองแบบ ลักษณะของฝ้าผสมจะเป็นสีเข้ม แต่ขอบจะจาง ต้องรักาษาด้วยวิธีหลายแบบรวมกันทั้งฝ้าลึกและฝ้าตื้น ทำให้มีการรักษาที่ค่อยข้างยุ่งยาก
ฝ้าเกิดจากสาเหตุ
1.แสงแดดหลายและแสงยูวี รังสียูวีเอและยูวีบี รังสีอัลตราไวโอเลตที่สามารถให้วิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้ดี แต่เมื่อหากเป็นรังสีUVที่มีความเข้มข้นสูง มันเป็นรังสีที่มีคลื่นความยาวสูงสามารถทำลายชั้นผิวได้ลึก ทำให้เกิดกการกระตุ้นและเพิ่มการผลิตเม็ดสีผิวภายในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าเสียและมีความคล้ำเสีย หน้าหมองคล้ำ และเกิดการเป็นฝ้าแดดได้ ส่วนรังสีอัลตราไวโอเลตนอกจากจะเจอที่แสงแดดยังพบได้ในหน้าจออุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน หลอดไฟต่างๆ ก็ยังกระตุ้นผิวหนังให้ผลิตสีคล้ำเสียได้เช่นเดียวกับแสงแดด การโดนรังสีจำพวกนี้บ่อยๆซ้ำๆ จะทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้น ฝ้าเข้มชัดมากกว่าเดิมหากโดนรังสีนี้บ่อยๆในระยะยาวผิวหนังอาจถูกทำร้ายจนพัฒนาเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งได้
2.ความไม่สมดุลฮอร์โมน ความไม่สมดุลของฮอร์โมนสำหรับผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือผู้ที่เข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือน สามารถส่งผลให้เม็ดสีของร่างกายเกิดความผิดปกติได้จนนำไปสู่ปัญหาฝ้า และ ฮอร์โมน ซึ่งบางรายอาจมีปัญหาสิวอีกด้วย หรือที่เรียกันว่า สิวฮอร์โมน
3.พันธุกรรมและวัยอายุที่เพิ่มขึ้น การที่ร่างกายผลิตเม็ดสีที่มากเกินไปจนเกินความจำเป็นสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมแล้วทำให้บุตรหรือผู้สืบทอดเกิดให้หน้าเป็นฝ้าได้ นอกจากพันธุกรรมแล้ว ยังพบว่าฝ้าเริ่มเกิด ในช่วง อายุ 30-40 ปีและพบได้ในเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่มากกว่าผู้ชาย
4.ตัวยาบางชนิด ยาบางชนิดที่ทานสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายและทำให้หน้าเกิดฝ้า เช่น ยาคุมกำเนิดที่ส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย มักเป็นหนึ่งในการกระตุ้นที่ทำให้มีการผลิตเม็ดสี หรือ ยากันชักบางชนิด ที่พบว่า ผู้ที่ใช้ยาชนิดดังกล่าวมักมีฝ้าเกิดตามใบหน้าหรือบริเวณกรอบหน้า
5.ผลข้างเคียงจากโรคอื่นๆ โรคประจำตัวหรืออาการป่วยบางชนิดที่ส่งผลต่อฮอร์โมน เช่น โรคที่เกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อต่างๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ
6.การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์จนขาดสารอาหาร การรับประทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เราควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีวิตามินหรือซิงค์และคลอลาเจน จากผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ส่วนขนมขบเคี้ยว ก็ควรจะรับประทานในปริมาณที่เหมาะต่อร่างกาย
7.ความเครียดหรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการเครียดสะสมหรืออาการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ
8.สารเคมีจากเครื่องสำอาง นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ้าเกิดขึ้นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากการใช้เครื่องสำอางผู้หญิงมักจะใช้มากกว่าผู้ชายและผู้หญิงจะมีประจำเดือน แต่จากการใช้เครื่องสำอางในบางคนต้องใช้เป็นประจำในทุกวัน ในช่วงที่มีประจำเดือนฮอร์โมนจะสวิงมากกว่าปกติ บวกกับการต้องใช้เครื่องสำอางบนใบหน้าจึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้าได้มากกว่าผู้ชาย
คลินิกรักษาฝ้า ที่ไหนดี
1. WOW Clinic – คลินิกรักษาฝ้า ฉีดฝ้า กระ รักษาหลุมสิว เลเซอร์ปาก
เป็นคลินิกที่ติดอันดับ 1 ในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ มี นวัตกรรมการฉีดสลายฝ้า โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
-การทำทรีตเมนต์ จะมีการทำความสะอาดใบหน้าและใช้กรดของผลไม้ในการผลัดเซลล์ผิว มีการใช้เครื่องมือทางแพทย์ เพื่อผลักวิตามิน 5 ชนิดเข้าสู่เซลล์ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
-เลเซอร์ผิว ทางคลินิกเลือกใช้เลเซอร์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงเหมาะสำหรับคนที่เป็นผิวแพ้ง่าย เหมาะสำหรับคนกลัวเข็ม
-การฉีดสลายฝ้า เป็นการรักษาที่รวดเร็วและลึกถึงทุกชั้นของชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่เป็นมานานเป็นเรื้อรัง เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ไม่เสี่ยงต่อปัญหาหน้าบาง
-มีโปรโมชั่นและส่วนลดในการทำครั้งแรก
2. YANHEE รักษาฝ้า ฉีดฝ้า กระ
เป็นคลินิกที่มีติดอันอับที่ 2 และมีผู้คนนิยมไปรับการรักษาเพราะมีการรักษาหลายรูปแบบโดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
-การใช้ครีมกันแดด ที่มีค่า spf 30 ขึ้นไป
-การใช้ยาทารักษา ฝ้า กระ จุดด่างดำ
-การทำ ไอออนโต Ionto จะเป็นการใช้กระแสไฟฟ้าระดับบอ่อนผลักยาหรือวิตามินให้ซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายและดียิ่งขึ้น -การผลัดผิวด้วย MD (Microdermabrasion) เป็นการขจัดเซลล์ชั้นหนังกำพร้าให้หลุดเร็วขึ้น เหมาะกับฝ้าแบบตื้น ทำให้รอยดำจากฝ้าจางลง
–การใช้เลเซอร์ โดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแสงเลเซอร์ในการทำลายเม็ดสีที่เรียงตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกระจุก เกิดการแตกตัวกันจนกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็ก และถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกลธรรมชาติ
-ราคาเริ่มต้นที่ 500 มีโปรโมชั่นในการทำ
3. Pewdee Clinic รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์และแสง
เป็นคลินิกที่ติดอันดับ 3 และเชียวชาญทางด้านผิวหนัง มีการนำเข้าของอุปกรณ์ในการรักษา
-การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยใช้เลเซอร์ เป็นเลเซอร์ที่สามารถตรงเข้าไปได้ถึงชั้นผิวหนังชั้นใน และมีเลเซอร์ให้เลือกหลายหลากและเหมาะกับผิวหน้าของแต่ละคนโดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ และมีหลากหลายราคา
-การรักษาฝ้าโดยใช้แสง เช่น LME , Luminis ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ เพราะต้องใช้พลังงานที่เหมาะสมหากใช้แรงเกินไป ฝ้า กระ จุดด่างดำ อาจจะดำและขึ้นเยอะมากกว่าเดิมได้ การใช้ LME ส่วนมากจะใช้หลังจากการเลเซอร์จะทำให้ผิวหน้าแข็งแรง และป้องกันการเกิดฝ้าใหม่
-มีราคาและโปรโมชั่นให้ดูได้ตามเว็บไซต์
4.TREESURANG รักษาฝ้า กระ รอยดำ หน้าใส ด้วย pico laser
เป็นคลินิกที่ติดอันดับ 4 มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังคอยแนะนำ
-PHONO ผลักวิตามินหน้าใส เป็ฯทรีตเม้นต์ที่ช่วยบำรุงผิวหน้า และปรับให้ดูสว่าง และกระจ่างใส พร้อมเติบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า
-เมโสหน้าใส MESO WINK เป็นการการเติมวิตามินโดยใช้การสะกิดทั่วใบหน้า จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เน้นการบำรุงผิวด้วยวิตามิน ที่มีส่วนผสมจากวิตามินหลากหลายชนิด เช่น A B C E เน้นการปรับผิวให้ดูกระจ่างใส และลดจุดด่างดำบนใบหน้า
-เลเซอร์หน้าใส PSL เป็นการปล่อยแสงความเข้มข้นสูงยิงตรงสู่ผิวหนัง เพื่อการกระตุ้นสร้างคอลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง เพื่อ รักษารอยคล้ำต่างๆ เช่น รอยคล้ำที่เกิดจากแสงแดดที่ทำลายเซลล์ผิวหนัง แสงชนิดนี้จะช่วยฟื้นฟู ปรับสภาพสีผิว ให้สม่ำเสมอ และลดความหมองคล่ำ ฝ้า กระ รวมถึง ลดรอยแดง ได้ดี
-BRIGHT FACE การฉีดบำรุงผิวทั่วหน้าบริเวณใบหน้า 16 จุด ช่วยทำให้ผิว เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น มีสุขภาพดี และ ช่วยลดความหมองคล้ำ ปัญหากระ ฝ้า จุดด่างดำ
-ช้อนทอง ใช้หลักการ Electroporation ที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้าที่เฉพาะ เพื่อเปิดชั้นผิว ผลักตัววิตามินลงไปในชั้นผิว ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก และ กระตุ้นการไหลเวียนของผิวได้ดี
-TENSONEZ บำรุง ฟื้นฟู ความกระจ่างใส พร้อมขับสารพิษออกจากผิว และยังสามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับผิวกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี เรียบเนียน และอิ่มฟู
-มีโปรโมชั่นและราคาให้เลือกตามระดับมีแพทย์เฉพาะทางมาให้คำแนะนำในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ และการประเมินเบื้องต้นหรือระดับการรักษา
จาก 4 คลินิกรักษาฝ้า ที่ไหนดี ที่ยกตัวอย่างมาเป็นคลินิกที่มีคนนิยมและเรา Topstarclinic มีการรีวิวในการรักษามาจากคนที่เข้ารับการรักษาจริง ราคาในการทำหรือการรักษาก็จะแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญในการเลือกคลินิกคือการหาข้อมูลของคลินิกและข้อมูลของแพทย์ที่ทำการปฎิบัติงาน บุคลากร สภาพแวดล้อม รีวิวจากผู้ใช้จริง ราคาตามความเหมาะสม คลินิกแต่ละที่จะใช้วิธีรักษาฝ้าที่แตกต่างกันไป ดังนั้นต้องหาข้อมูลในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ เบื้อต้นรวมถึงข้อมูลของตัวเองว่ามีอาการแพ้ยา หรือ มีโรคประจำตัวอะไร เพื่อจะได้ทราบว่าควรใช้การรักษาแบบไหนให้สอบถามทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญการพิเศษ ศึกษาผลข้างเคียงของแต่ละวิธีการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ นำข้อมูลแต่ละคลินิกมาเปรียบเทียบ จึงเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
วิธีป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุด ด่างดำ
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดด และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป SPF+++ ไม่ควรแกะเกาตรงผิวบริเวณที่เป็นแผล เช่น รอยสิว รอยแผลตกหรือแผลที่เริ่มตกสะเก็ด เพื่อช่วยลดการเกิดจุดด่างดำด้วย
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อ าหารที่มีประโยชน์ ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก โดยกลุ่มอาหารที่แนะนำให้เลือกรับประทาน ได้แก่ มะเขือเทศ ผักใบเขียว พืชตะกลูเบอร์รี่ พืชตะกลูส้ม แอปเปิ้ลเขียว น้ำมันปลา มะขามป้อม แตงกวา พืชตะกลูถั่ว และปลา เป็นต้น อาหารเหล่านี้ช่วยลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้าจะค่อยๆจางลง อาหารพวกนี้จะเพิ่มวิตามินและคอลาเจน ให้กับร่างกายและผิวทำให้ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น งดหรือรับประทานของทอดของมันและขนมขบเคี้ยวในปริมาณที่พอดีเพื่อไม่ให้มีไขมันมากไปในร่างกายเกินตามที่ร่างกายต้องการ
3.การดื่มน้ำ ในร่างกายของคนเรามีส่วนประกอบ ของน้ำเป็นส่วนประกอบ 2 ใน 3 ของน้ำหนักตัว ดังนั้นน้ำจึงมีความสำคัญต่อระบบในร่างกายเป็นอย่างมาก และการดื่มน้ำประจำและสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มควาชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือ 8 แก้ว ต่อวัน เพื่อสุขภาพผิวที่ดีขึ้นและขจัดสิ่งสกปรกในร่างกายพร้อมขับสารเคมีต่างๆ ออกไปจากร่างกาย
4.สมุไพร การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ อย่างมีประสิทธฺภาพ จึงมีการนิยมนำสมุนไพรมารักษา เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำส้มสายชูหมัก แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมันละหุ่ง มะรุม มะนาว มะละกอ และขมิ้น วิธีลดรอยสิวหรือจุดด่างดำเหล่านี้เป็นสูตรธรรมชาติที่หาได้ทั่วไป
5.การทำ Peeling การทำพีลลิ่ง เป็นการผลัดเซลล์ผิว ที่เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาปัญหาจุดด่างดำ ซึ่งหลักการนี้จะทำการเอาเซลล์ผิวชั้นนอกหรือเซลล์หนังกำพร้าที่ตายไปแล้วออกไป ทำให้รอยดำและจุดด่างดำดูลดเลือนลง หลังจากผิวเก่าถูกผลัดออกไปก็จะทำให้ได้ผิวใหม่เกิดขึ้นมา ทำให้รอยดำจุดด่างดำลดเลือนลง ผิวจะดูสว่าง กระจ่างใส
6. การกรอผิวการกรอผิว เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่มีปัญหาจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่มีรอยดำให้จางลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยดำจากสิว หรือ รอยจากแผล โดยสามารถรักษาได้ทุก 1-2 สัปดาห์
7. การรักษาจุดด่างดำด้วย IPLโดยการใช้พลังงานแสงที่มีความยาวคลื่น 530-560 นาโนเมตร จะช่วยลดเม็ดสี ทำให้จุดด่างดำค่อย ๆ จางลงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอย กระ หรือ รอยจุดด่างดำจากการอักเสบของผิวหนัง
8. บำบัดผิวด้วยความเย็นการบำบัดผิวด้วยความเย็น หรือที่เรียกว่า Cryotherapy เป็นวิธีการใช้เครื่องพ่นไนโตรเจนเหลวหรือคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอุณหภูมิต่ำ ไปยังจุดที่ต้องการทำการรักษา เพื่อทำให้เซลล์ผิวตาย แล้วกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ ช่วยรักษาจุดด่างดำ รอยแผลเป็นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
9. ลอกหน้าด้วยกรดผลไม้กรดผลไม้ จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น ช่วยลบเลือนริ้วรอย จุดด่างดำและรอยแผลเป็นจากสิวได้ดี ใบหน้าขาวใสเรียบเนียนและยังกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น จึงทำให้ผิวดูนุ่มนวล เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์
10. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิค คุณสมบัติของกรดไกโคลิค มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ปัญหาการเกิดฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยสิวบนใบหน้า ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เพื่อทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูกระชับเต่งตึงอีกด้วย
11.นอนพักผ่อนให้เพียงพอลดอาการเครียด อาการเครียดสะสมหรื่อออาการนอนไม่เพียงพอทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล เป็ฯสาเหตุที่ทำให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้หาอะไรทำให้ผ่อนคลาย นอนไวขึ้น
12.ขับถ่ายให้เป็นเวลา อย่าปล่อยให้ตัวเองมีอาการท้องผูก เพราะจะผลต่อสุขภาพร่างกายและระบบอื่นๆ โดยตรง
13.หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมี เปลี่ยนการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีให้ใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิวหรือใช้เครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้ง่ายแต่ราคาจะสูงนิดหน่อย
14.พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในวิธีที่กล่าวมาเบื้องต้นการไปพบแพทย์เป็นคำแนะนำที่ดีเนื่องจากเราจะได้ทราบทั้งสาเหตุที่เกิด ฝ้า กระ จุด่างดำ เพราะวิธีรักษา และวิธี ป้องกันการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ กลับมาอีกครั้ง จากแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีวิธีดูแลและบำรุงผิวหน้าและกาย พร้อมการกำจัดได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพ มีความหน้าเชื่อถือ
15. ใช้ยากลุ่ม Tretinoin ยาที่ใช้ในการรักษาฝ้าและจุดด่างดำ จะเป็นยาที่หาซื้อได้ตามร้านยาทั่วไป โดยกลุ่มแรกคือ กลุ่ม Tretinoin (อนุพันธ์วิตามินเอ) ซึ่งกลไกของวิตามินเอจะเข้าไปทำให้เซลล์ผิวของเราผลัดตัวได้มากขึ้น เมื่อผิวหนังผลัดตัวออกไป เม็ดสีก็จะออกตามไปพร้อมกับผิวหนังเรา ทำให้ฝ้าแลดูจางลง ข้อดีของยากลุ่มนี้ก็คือค่อนข้างปลอดภัย และนอกจากจะรักษาฝ้าได้แล้ว ยังสามารถรักษาสิวด้วย