5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดเมโสแฟต 2024
การฉีดเมโสแฟตไม่จะไม่ใช่หัตถการที่ใหญ่โตเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรมบางประเภท แต่ก็มีข้อมูลมากมายที่ควรต้องศึกษาไม่ต่างจากการศัลยกรรมเหล่านั้น เพื่อที่จะมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง สามารถปฏิบัติตัวทั้งก่อนและหลังเข้ารับบริการได้อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดกับตนเอง ซึ่งในบทความนี้เราได้รวบรวม 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดเมโสแฟต 2024 มาฝากกัน
1. เมโสแฟต ต่างจากโบท็อกซ์อย่างไร
เมโสแฟตมีคุณสมบัติกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน โดยจะมีทั้งไขมันที่ถูกดึงมาใช้เป็นพลังงานให้ร่างกายและไขมันที่ถูกสลายแล้วกำจัดออกทางระบบขับถ่าย จึงใช้ฉีดเพื่อลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขาฯลฯ เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วแต่ไขมันส่วนเกินยังสะสมอยู่ในบางจุด ส่วนโบท็อกซ์ มีฤทธิ์ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง ใช้ฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อ จุดที่นิยมฉีดคือกรามและน่องขา
เมโสแฟตและโบท็อกซ์ เป็นสารที่นิยมฉีดเพื่อปรับรูปหน้าทั้งคู่ แต่สิ่งที่ต่างกันคือเมโสแฟตช่วยลดไขมัน ส่วนโบท็อกซ์ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อนั่นเอง
2. ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล
หลังจากฉีดเมโสแฟตครั้งแรก บริเวณที่ฉีดจะเริ่มยุบลงภายใน 5-7 วัน แต่จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันในในบริเวณนั้นๆ ทั้งนี้หากต้องการเห็นผลเร็วขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำให้มากๆ เนื่องจากไขมันที่สลายออกไปส่วนใหญ่จะถูกขับออกทางปัสสาวะนั่นเอง อย่างไรก็ตามการฉีดเมโสแฟตสามารถฉีดซ้ำได้เมื่อเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ดังนั้นหากฉีดไปแล้วแต่ยังต้องการลดไขมันเพิ่มอีก ก็กลับมาฉีดซ้ำได้
เมื่อฉีดแล้วผลลัพธ์จะคงอยู่ราว 2-3 เดือน แต่ว่าจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย เพราะถ้าฉีดฉีดโสแฟตแล้วแต่ยังทานอาหารที่มีไขมันสูงอยู่เสมอโดยไม่ออกกำลังกายเลย ผลที่ได้ก็อาจไม่ชัดเจนมากนักหรือฉีดแล้วผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นใครที่ฉีดก็อยากให้ควบคุมอาหารไปพร้อมกับการออกกำลังกาย ช่วยลดการสะสมของไขมันที่เกิดใหม่ได้นั่นเอง
3. เมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี
เมโสแฟตที่นิยมใช้กันปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศเกาหลี มีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อจะมีข้อดีแตกต่างกันออกไป เช่น
• FNC สลายไขมันได้ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ไขมันยุบดีและยุบอย่างรวดเร็ว
• BABI-Neo one ช่วยสลายไขมัน ผิวยกกระชับ ไม่แสบ ไม่บวมแดง
• Vline ฉีดแล้วไขมันยุบไวกว่ายี่ห้อ FNC แต่จะรู้สึกแสบมากกว่าในขณะฉีด
นอกจากเมโสแฟตที่กล่าวถึงไปข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายยี่ห้อเช่นกันที่นิยมฉีดกันในปัจจุบัน ดังนั้นการเจาะจงว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดอาจไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป จะเป็นการดีกว่าถ้าให้แพทย์เป็นผู้ประเมินเพราะแพทย์จะมีประสบการณ์ในการรักษา สามารถวิเคราะห์ปัญหาและเลือกใช้เมโสแฟตยี่ห้อที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนได้มากที่สุดนั่นเอง
4. ฉีดเมโสแฟต เตรียมตัวเบื้องต้นอย่างไร
• หาข้อมูลคลินิก เริ่มจากค้นหาข้อมูลคลินิกที่สนใจจะเข้ารับบริการก่อน เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ คลินิกมีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ที่สำคัญคือต้องมีแพทย์คอยให้คำปรึกษาแนะนำแม้ว่าจะเป็นการสอบถามข้อมูลผ่านทางช่องทางออนไลน์ก็ตาม เพราะจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำกว่านั่นเอง
• เตรียมตัวตามแพทย์สั่ง หลังจากที่เข้าไปปรึกษาแพทย์และนัดวันเวลาเข้ารับบริการแล้ว แพทย์จะแจ้งแนวทางการปฏิบัติเบื้องต้น เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ งดทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด เป็นต้น ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้อย่าลืมแจ้งแพทย์ด้วยว่ามีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาอะไรบ้าง ทางคลินิกจะได้ดูแลผู้เข้ารับบริการได้อย่างเหมาะสม
• ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลตัวเองหลังฉีด เพราะหัตถการนี้นอกจากจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์และคุณภาพของตัวยาแล้ว หากดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องหลังเข้ารับบริการก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้นนั่นเอง
5. ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต
แม้ว่าการฉีดเมโสแฟตจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับหัตถการนี้ โดยกลุ่มคนที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต ได้แก่ สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ป่วยที่ต้องทานยาปริมาณและผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ หากไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเข้ารับบริการนี้ได้ไหมก็แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวเอง
สรุป รู้ก่อนฉีดเมโสแฟต
และนี่ก็เป็น 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดเมโสแฟต ที่ได้เรียบเรียงมาฝากกัน สำหรับใครที่อ่านบทความกันจบเรียบร้อยแล้วก็น่าจะเข้าใจในหัตถการนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ ส่วนใครที่ตัดสินใจจะฉีดเมโสแฟตจริงๆ ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด จะต้องเลือกใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน ห้ามไปฉีดกับหมอกระเป๋าหรือหาซื้อเมโสแฟตมาด้วยตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามร้านค้าออนไลน์ เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะได้เมโสแฟตคุณภาพต่ำ ไม่มีอย.รับรอง อาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นจะต้องฉีดกับคลินิกเสริมความงามที่เชื่อถือได้และฉีดเมโสแฟตของแท้ มีอย.รับรองความปลอดภัยเท่านั้น
